ไส้เดือน สัตว์มหัศจรรย์จากธรรมชาติ


ไส้เดือน เป็นสัตว์ที่มีอยู่ทั่วไปตามธรรมชาติ  เป็นสัตว์มหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างให้กับโลกนี้ ไส้เดือนให้ประโยชน์มากกว่าให้โทษต่อมนุษย์ เป็นสัตว์เลื้อยคลานตัวเล็กๆที่ทำหน้าที่เป็นเสมือนเครื่องจักรกลในธรรมชาติเพื่อการเกษตร ด้วยการชอนไชของไส้เดือนสามารถทำให้โครงสร้างของดินดีขึ้น ทำให้ดินร่วนซุย ระบายน้ำและทำให้อากาศไปสู่ดินได้ดีขึ้น  เรียกได้ว่าไส้เดือนเป็นนักไถพรวนดินตามธรรมชาติ ไส้เดือนเป็นผู้ย่อยสลายซากอินทรีย์ในระบบนิเวศ และมูลไส้เดือนยังช่วยให้ดินอุดมสมบูรณ์ด้วยการช่วยเพิ่มอินทรียวัตถุและธาตุอาหารแก่ดิน ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืช  จำนวนและปริมาณความหนาแน่นของไส้เดือนที่มีอยู่ในดิน สามารถบ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของดินในบริเวณนั้นได้อีกด้วย
ปัจจุบันทั่วโลกพบไส้เดือนประมาณ 4,400 ชนิด แบ่งออกได้ตามแหล่งที่อยู่อาศัยและนิสัยในการกินอาหารได้แก่ ไส้เดือนที่อาศัยอยู่บริเวณหน้าดินตามผิวดินหรือใต้ซากอินทรีย์ ไส้เดือนที่อาศัยอยู่บริเวณดินชั้นบน ที่มีความลึกประมาณ 20-30 เซนติเมตร ไส้เดือนที่อาศัยอยู่ใต้ดินชั้นล่างลึกประมาณ 2-3 เมตร โดยไส้เดือนที่อยู่ตามผิวดินหรือใต้ซากอินทรีย์จะมีประสิทธิภาพในการย่อย สารอินทรีย์ในดินได้ดีกว่า ขยายพันธุ์ได้รวดเร็วกว่า โดยทั่วไปในธรรมชาติไส้เดือนมีอายุที่ยาวนาน ตั้งแต่ 4-10 ปีขึ้นอยู่กับชนิดของไส้เดือน แต่เมื่อนำมาเพาะเลี้ยง พบว่าไส้เดือนมีอายุสั้นลง เฉลี่ยประมาณ 2 ปี
ไส้เดือนที่นิยมเลี้ยงกันทั่วโลกมี 5 ชนิด คือ ไส้เดือนไทเกอร์ ไส้เดือนไทเกอร์แดง ไส้เดือนยูโร ไส้เดือนแอฟริกัน และไส้เดือนสีน้ำเงิน เป็นไส้เดือนที่มีความสามารถพิเศษในการย่อยสลายอินทรียวัตถุที่เป็นเศษของเหลือจากครัวเรือนจากการเกษตร และจากอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น เศษอาหาร เศษพืช เช่น เศษหญ้า ฟาง เศษผัก ผลไม้ ขุยมะพร้าว ก้อนปลูกเห็ด กากชานอ้อย กากปาล์ม รวมทั้งมูลสัตว์ชนิดต่างๆ  และเปลี่ยนอินทรียวัตถุเหล่านั้นให้เป็นผลผลิตทีมีคุณภาพและมูลค่าสูงขึ้นได้
การเลี้ยงไส้เดือน (Vermiculture) จึงเป็นเทคโนโลยีชีวภาพที่เหมาะสม (Appropriate Biotechnology) เนื่องจากเป็นการนำสัตว์ที่มีอยู่ในธรรมชาติมาใช้ประโยชน์ได้สารพัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อการเกษตรกรรม
การเลี้ยงๆไส้เดือนให้ผลผลิตที่สำคัญ 3 ชนิด คือ
1) ปุ๋ยหมักไส้เดือน  (vermcompost) ซึ่งหมายถึงมูลไส้เดือนและอินทรียวัตถุที่ย่อยไม่หมด จัดเป็นปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง ประกอบด้วยสารอาหารสำหรับพืช จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ และฮอร์โมนพืช
2) น้ำหมักมูลไส้เดือน ( Worm tea) มีลักษณะเป็นของเหลวสีน้ำตาลอ่อนคล้ายน้ำชา ประกอบด้วยสารอาหารสำหรับพืชที่ละลายน้ำ จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ และฮอร์โมนพืช
3) ไส้เดือน ตัวไส้เดือนมีปริมาณโปรตีนสูงและประกอบด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็นครบถ้วน จึงสามารถใช้เป็นสารอาหารสัตว์ได้อย่างดี
 ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา การเลี้ยงไส้เดือนได้เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว มีผู้เลี้ยงไส้เดือน ทั้งเลี้ยงเป็นอาชีพหลัก อาชีพเสริม และเลี้ยงเป็นงานอดิเรกจำนวนมากแพร่กระจายไปทั่วประเทศ ผลผลิตจากการเลี้ยงไส้เดือนได้รับความนิยมนำไปใช้ประโยชน์มากขึ้นอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันมีการนำปุ๋ยหมักไส้เดือนและน้ำหมักมูลไส้เดือนไปใช้ประโยชน์ในการเพิ่มผลผลิตทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพของพืชเศรษฐกิจหลากหลายชนิด เช่น ข้าว อ้อย ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ไม้ผล ไม้ดอก ไม้ประดับ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งพืชผัก นอกจากนั้นยังมีการนำปุ๋ยหมักไส้เดือนและน้ำหมักมูลไส้เดือน ไปใช้ประโยชน์ด้านการเลี้ยงกุ้ง เลี้ยงปลา และการปลูกเห็ดอีกด้วย ส่วนตัวไส้เดือนนิยมนำไปใช้เลี้ยงกุ้งและปลาสวยงาม รวมทั้งนกและไก่ชน
นับได้ว่าผลผลิตจากการเลี้ยงไส้เดือนสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในระบบเกษตรได้หลากหลาย สร้างรายได้ และยกระดับสภาพความเป็นอยู่ได้อย่างยั่งยืน
ครั้นเมื่ออาจารย์สมชัย จันทร์สว่าง ยังมีชีวิตอยู่ท่านได้เปิดบ้านเพื่อให้เข้าเยี่ยมชม และเปิดอบรมการเลี้ยงไส้เดือนเบื้องต้นแบบถูกต้อง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ผู้สนใจติดตามรายละเอียดได้ทาง Facebook "อาจารย์สมชัย จันทร์สว่าง รับสอนการเลี้ยงไส้เดือน" ซึ่งในภายหลังลูกศิษย์อาจารย์ก็ยังได้สานเจตนารมณ์การเลี้ยงไส้เดือนอย่างถูกวิธีให้แก่ผู้สนใจในทุกๆ วันอาทิตย์ ที่ "ต้นกล้าฟาร์มไส้เดือน" เลขที่ 54/207 หมู่บ้านบารานี หมู่ 3 ถนนเลียบคลองสาม ตำบลคลองสาม อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
แต่แม้ท่านอาจารย์สมชัย จันทร์สว่างจะได้เวลาพักผ่อนของท่านแล้ว แต่คุณความดีของท่านก็ยังคงอยู่เสมือนท่านได้อยู่ข้างๆ พวกเรา ความรู้ดีๆ การกระทำดีๆ ของอาจารย์ก็ยังดังก้องอยู่ในหัวใจของศิษย์ ท่านใดสนใจพื้นฐานความรู้ไส้เดือนแบบเจาะลึกลองฟังอาจารย์ตามคลิปด้านล่างนี้นะครับ









ลำดับต่อมาเป็นผู้เพาะเลี้ยงไส้เดือนที่ประสบความสำเร็จ ลองฟังดูนะครับ










ขอบคุณข้อมูลจาก : สถาบันวิจัยและพัฒนาแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 
Share on Google Plus

About Sorawee Blog

Blog บันทึกนี้เป็นที่รวบรวมความรู้ด้านการเกษตรที่ค้นหาได้ตามความสนใจของผู้บันทึก ไม่ขอยืนยันว่าข้อมูลที่บันทึกและรวบรวมไว้มีความถูกต้องมากน้อยเพียงใด เนื่องจากไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเกษตร แต่เป็นผู้ที่สนใจอยากเข้ามาเรียนรู้และอยากมีโอกาสได้ลงมือทำเท่านั้น หากจะให้นิยามของ BLOG นี้ว่าคืออะไร เราก็อยากจะนิยามของความรู้ด้านเกษตรใน BLOG คือ "เกษตรทฤษฎี copy_paste" อย่าได้เชื่ออะไรจนกว่าท่านจะได้พิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง ดังนั้น ผู้บันทึกเองยินดีรับคำชี้แนะทุกสถานหากท่านจะเมตตาชี้แนะ แต่หากข้อมูลที่บันทึกทั้งหมดนี้จะเป็นประโยชน์ หรือจะเป็นแรงบันดาลใจของท่านใดให้ลงมือทำแบบจริงจัง ก็อย่าลืมแวะมาเล่าให้เราได้ฟังบ้างนะครับ ขอบคุณครับ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น